ประสบการณ์ชีวิตจริง : เรื่องเล่าของเด็กบ้านนอก กับ อาชีพข้าราชการ EP.1 ไม่มีวัยรุ่น

เส้นทางคว้าฝัน...กว่าจะได้ใส่เครื่องแบบ บันทึกบทความแห่งชีวิตจริงของแอดมิน

ตอนที่ 1 ชีวิตลูกเกษตรกรยุคก่อนเข้าวงการ





        สวัสดีเพื่อน ๆ ร่วมอุดมการณ์ทุกท่านครับ เชื่อว่าท่านที่เข้ามาเห็นบทความนี้ แน่นอนว่าต้องเป็นบุคคลที่ค่อนข้างมีเวลาว่าง  และกำลังค้นหาตัวตนหรือสนใจ หรือมีความฝัน อยากโลดแล่นเข้าสู่เส้นทางแห่งดิน เส้นทางแห่งจิตสาธารณะ หรือเส้นทางแห่งอาชีพมหาชน ...ผมขอรวบคำเรียกเหล่านั้นว่า... "ข้าราชการ" ผมเป็นแอดมินของเพจศูนย์ข่าวเปิดสอบงานราชการแห่งนี้ครับ   ซึ่งผมเองอยากจะใช้เพจนี้เป็นห้องบันทึกความทรงจำของผม เพื่อใช้เก็บบันทึกประสบการณ์และเรื่องราวบนเส้นทางชีวิต  กว่าจะได้บรรจุเข้ารับราชการ ในยุคสมัยหนึ่งตั้งแต่ราว พ.ศ. 2548  เอาไว้เป็นแรงใจ แรงผลักดัน ของใครหลายคนเผื่อว่าวันใดมีผู้ที่สนใจและอยากเรียนรู้เส้นทางแห่งนี้   ให้สู้ ให้ชนะ และได้เป็นข้าราชการสมปรารถนา



        ณ ปัจจุบัน ยุคสมัยเปลี่ยนแปลงไปมาก เด็กสมัยใหม่ความรู้ความสามารถเยอะ อาจไม่ลำบากมากเท่ารุ่นผมนะครับ เอาเป็นว่าผมมาเขียนแบ่งปัน บวกกับ เก็บบันทึกไว้เป็นความทรงจำเพื่อประโยชน์ส่วนตัวด้วย



        สำหรับคนที่จะทำราชการ ไม่ใช่แค่คนมีความสามารถเท่านั้น หากแต่ต้องมีใจรักมาก ๆ ด้วย เพราะราชการ ไม่ได้มีค่าตอบแทนที่มากมาย แต่มีผลตอบแทนที่คุ้มในระยะยาว ๆ (ซึ่งอาจได้ใช้ หรือไม่ก็ได้ ฮ่าๆๆ) นั่นก็คือ เกษียณอย่างมั่นคง... แต่ทว่าสำหรับผู้มีความสามารถในการทำธุรกิจและมีฐานะอยู่แล้ว ก็อาจมั่นคงเสียตั้งแต่อายุน้อย ๆ อันนี้ก็ละไว้ก็แล้วกันนะครับ



เอาล่ะครับ พูดไปเส้นสายยาว... มาเริ่มกันเลย
เริ่มนะ!



    ผมเองเป็นเด็กบ้านนอกอีสานคนหนึ่ง ไม่มีเส้นสายทางราชการ คือ หมายถึงว่าไม่มีใครในครอบครัวอยู่ในระบบราชการเลย ดังนั้น เพื่อให้บันทึกความทรงจำของผมสมบูรณ์และครบถ้วนที่สุด ผมจึงอยากจะย้อนไปเล่าถึงเรื่องราวชีวิตของผมเอง ก่อนจะพลิกผันมาอยู่ในอาชีพนี้ 


ในยุควัยรุ่นตอนต้น ๆ ช่วงประมาณ 12 - 18 ปี

    ผมเป็นลูกชายคนเดียว คนโตครับ ที่บ้านเป็นเกษตรกรครับ ทำเกษตรทั้งปี ตากแดด ตัวดำ ... ครอบครัวก็ฐานะเหมือนคนส่วนใหญ่ของประเทศนี่แหละ คงพอรู้ใช่ไหมครับ ฮ่าๆ

    วัยรุ่นต้น ๆ ตอนนั้นพ่อกับแม่จะให้ทำงานทุกอย่าง ทั้งงานเกษตร งานบ้าน งานรับจ้าง ที่จะเป็นการแบ่งเบาภาระของเขาได้ เช่น ตักน้ำใส่ตุ่ม ไถนา ปลูกพริก ปักดำ หาบข้าว หาบน้ำ เกี่ยวข้าว นวดข้าว หาของเก่า คัดของเก่าขาย รับจ้างเรียงสินค้า ตัดไม้แต่งสวน ฯลฯ เรียกว่างานใช้แรงงาน ทรมานร่างกายใช้แรงพวกนี้ ผ่านร่างกายผมมาหมดแล้วในช่วงนั้น ตั้งแต่ 12 - 18 ปี วัยที่ควรได้เที่ยว ได้เล่นกับเพื่อนของผม ไม่มีเลย


    คงไม่ต้องอธิบายนะครับว่า ชีวิตของผมในช่วงวัยรุ่นอยู่บนขั้นลำบากและแทบจะไม่มีวิถีวัยรุ่นเลย กีฬาก็ไม่ได้เล่น มอไซต์ก็ไม่ได้แว๊น ฮ่าๆ... (สำหรับท่านใดที่เคยมีสภาพชีวิตหรือเคยเห็นเหตุการณ์พวกนี้ จะพอเข้าใจได้ดี)



    และในช่วงระหว่างที่ผมตรากตรำงานเหล่านี้อยู่ คำพูดดูถูกถากถางครอบครัวของผมในแง่ฐานะความเป็นอยู่ ในแง่วิถีชีวิตจากคนรอบข้าง แม้แต่ญาติ ๆ ของผมเองก็ถาโถมเข้าใส่ เป็นต้นว่า "จะมีอนาคตได้ถึงไหนกันเชียว" "จะมีปัญญาทำมาหากินอะไร" ฯลฯ ซึ่งผมได้ยินคำเหล่านี้แล้วแม้ชินหูแต่ก็เจ็บใจมากๆ โดยเฉพาะพ่อกับแม่  ด้วยเหตุนี้ล่ะครับ พ่อแม่ของผมจึงตั้งความหวังที่ตัวผมไว้สูงมาก พยายามที่จะกดวิถีวัยรุ่นของผมไว้ไม่ให้ห้าวกับรถมอเตอร์ไซต์ งานวัด หรือเหล่สาว ห้ามนอกลู่นอกทาง ให้อยู่กับสิ่งที่แกคิดไว้  ... แต่ก็ด้วยความที่แกไม่รู้ว่าการที่จะให้ลูกได้ดิบได้ดีนั้น มันต้องทำยังไงล่ะ? เลยไม่ได้วางแผนหรือแนะนำอะไร แกรู้แค่ว่า "ต้องเรียนสูง ๆ จะได้เป็นเจ้าคนนายคน" โดยที่ไม่รู้เลยว่า "เส้นทางการไปเป็นชาวสีกากี และเป็นเจ้าคนนายคน" นั้น ต้องเรียนไปทางไหนกัน?



    เส้นทางคว้าฝัน กว่าจะได้เป็นข้าราชการ EP.2 เรียนตามเพื่อน

No comments

Powered by Blogger.